คริสเตียน ชไตรค์ , ไฟร์บวร์ก และ เส้นทางประวัติศาสตร์ในการไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

 

คริสเตียน ชไตรค์ , ไฟร์บวร์ก

ในประวัติศาสตร์ของ ไฟร์บวร์ก พวกเขาไม่เคยคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้มาก่อน และไม่เคยเป็นตัวแทนของเยอรมนีในการไปเล่นถ้วยใหญ่สุดของยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ว่าฤดูกาล 2021-22 ของพวกเขาซึ่งเหลืออีกแค่ 3 เกมเท่านั้น มันอาจเป็นซีซั่นแห่งประวัติศาสตร์สำหรับสโมสรเล็กๆ แห่งนี้ได้เลย ปัจจุบัน ไฟร์บวร์ก รั้งอันดับ 4 ของบุนเดสลีกาโดยมีคะแนนนำทีมอันดับ 5 อย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก อยู่ 1 แต้ม และ เหลือโปรแกรมอีกแค่ 2 นัด ขณะที่บอลถ้วยอย่าง เดเอฟเบ โพคาล พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก ซึ่งคู่แข่งในนัดชิงของพวกเขาก็คือ ไลป์ซิก อีกเช่นกัน

โปรแกรม 2 นัดสุดท้ายในลีกซีซั่นนี้ของ ไฟร์บวร์ก ขอแค่ชนะให้ได้ทั้ง 2 เกม ก็จะคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกได้ทันทีโดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันของทีมอื่น ซึ่งพวกเขาจะเปิดบ้านพบ อูนิโอน เบอร์ลิน คืนวันเสาร์นี้ ก่อนจะบุกไปเยือน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คืนวันเสาร์หน้า แน่นอนว่า 2 เกมนี้คืองานหนัก เพราะ อูนิโอน เบอร์ลิน ตอนนี้รั้งอันดับ 7 แถมกำลังลุ้นทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรป ขณะที่ เลเวอร์คูเซ่น ตอนนี้รั้งอันดับ 3 มีคะแนนน้อยกว่า บาเยิร์น มิวนิค กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แค่ 2 ทีมเท่านั้น ซึ่งถ้าหาก ไลป์ซิก ชนะทั้ง 2 นัด แล้ว ไฟร์บวร์ก ดันพลาดสะดุดในนัดใดนัดหนึ่ง จะทำให้ทีมกระทิงแดงพลิกแซงคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก แทนในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ทันที มันคงเป็นเรื่องที่น่าฮือฮาไม่น้อยเลย ถ้าหาก ไฟร์บวร์ก ซึ่งมาจากเมืองที่มีประชากรแค่ราวๆ 230,000 คนสามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยทำได้มาก่อนให้โลกได้เห็นบ้าง ปิดฉากฤดูกาลนี้ด้วยการคว้าอันดับ 4 บุนเดสลีกาได้สำเร็จ แล้วได้ชูถ้วยแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ได้ในคืนวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม

คริสเตียน กึนเทอร์

คริสเตียน กึนเทอร์

นักเตะที่ดังที่สุดของพวกเขาในทีมชุดนี้คือ คริสเตียน กึนเทอร์ แบ็กซ้ายทีมชาติเยอรมนีซึ่งสวมปลอกแขนกัปตันทีม, นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค เซนเตอร์แบ็กทีมอินทรีเหล็กอีกคน ซึ่งกำลังจะย้ายไปซบ ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลหน้าด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร และ วินเชนโซ่ กริโฟ่ ตัวรุกดีกรีทีมชาติอิตาลี ซึ่งเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงมากที่สุดของทีม โดยยิงไป 9 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์ในบุนเดสลีกาซีซั่นปัจจุบัน 

ที่น่าสนใจก็คือกุนซือของพวกเขาอย่าง คริสเตียน ชไตรค์ เพราะตลอดอาชีพโค้ชของเขา ทำงานให้ ไฟร์บวร์ก แค่ทีมเดียวเท่านั้น โดยไม่เคยไปร่วมงานกับทีมอื่น ปัจจุบัน คริสเตียน ชไตรค์ อายุ 56 ปี เขาคือเจ้าของสถิติกุนซือที่คุมทีมในศึกบุนเดสลีกายาวนานที่สุด ณ ปัจจุบัน โดยรับตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชุดใหญ่ของ ไฟร์บวร์ก มาตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2011 หรือคุมทีมมายาวนานถึง 10 ปีครึ่งเข้าไปแล้ว ถ้านับรวมทั้ง 5 ลีกดังยุโรป ก็มีแค่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือของ แอตเลติโก มาดริด ที่คุมทีมตราหมีมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2011 เพียงคนเดียวที่เป็นเฮดโค้ชให้ทีมชุดใหญ่มานานกว่า โดย “เอล โชโล่” เริ่มงานก่อนที่ ชไตรค์ จะกลายเป็นนายใหญ่ของ ไฟร์บวร์ก แค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น

บุนเดสลีกา

บุนเดสลีกา

บุนเดสลีกาคือลีกที่บรรดาสโมสรต่างๆ เปลี่ยนกุนซือกันบ่อยมากนะ เพราะถัดจาก ชไตรค์ คนที่คุมทีมปัจจุบันมายาวนานที่สุดคือ อูร์ส ฟิชเชอร์ เฮดโค้ชของ อูนิโอน เบอร์ลิน ซึ่งคุมทีมมาแค่ 4 ปีเท่านั้นเอง นั่นทำให้การที่ใครคนหนึ่งสามารถคุมทีมทีมหนึ่งในลีกสูงสุดของเมืองเบียร์ได้นานกว่าทศวรรษได้ ต้องเป็นคนที่จงรักภักดีกับองค์กร และเป็นคนที่สโมสรไว้ใจมากอย่างที่สุด ด้วยความที่เส้นทางงานโค้ชของ ชไตรค์ มาจากการทำทีมเยาวชน และเป็นคนที่ทำงานให้สโมสรเดียวมาตลอดอาชีพการเป็นเทรนเนอร์ นั่นทำให้เขามีนโยบายในการผลักดันดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ขึ้นมาเป็นตัวหลักให้ทีมอยู่ตลอด

ศิษย์เก่าของเขาซึ่งเป็นอดีตผลผลิตของ ไฟร์บวร์ก ที่เติบโตมาเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงก็อย่างเช่นกองหลังดีกรีทีมชาติเยอรมนีชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 อย่าง มัทธิอัส กินเทอร์ ซึ่งปัจจุบันเล่นให้ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และยังคงติดทีมอินทรีเหล็กอย่างสม่ำเสมอจนถึงตอนนี้ รวมไปถึงผู้เล่นประสบการณ์สูงในบุนเดสลีกาคนอื่นๆ อย่าง โอเมอร์ ท็อปรัค และ โอลิเวอร์ เบามันน์ แข้งชุดปัจจุบันที่เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ที่ ชไตรค์ ดันขึ้นมาเป็นตัวหลัก ก็คือ 2 กองหลังทีมชาติเยอรมนีที่บอกไปตอนต้นบทความอย่าง คริสเตียน กึนเทอร์ กับ นิโก้ ชล็อตเตอร์เบ็ค ส่วนคนต่อไปที่กำลังจะขึ้นมาแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่เร็วๆ นี้คือ เควิน ชาเด้ กองหน้าลูกครึ่งไนจีเรียวัย 20 ปี ที่ถูกเรียกติดทีมชาติเยอรมนีชุดยู-21 ไปแล้ว

ฟอร์มของ ไฟร์บวร์ก ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา

ฟอร์มของ ไฟร์บวร์ก ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาถือว่าน่าติดตามมากทีเดียว เพราะ 14 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ พวกเขาพบกับความปราชัยแค่เกมเดียวเท่านั้น (ชนะ 8 เสมอ 5) โดยเกมเดียวที่แพ้ในช่วงเวลาดังกล่าว คือการพ่ายทีมแชมป์อย่าง บาเยิร์น มิวนิค คาบ้าน 1-4 เกมรุกช่วงหลังกำลังเข้าฝัก 4 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ยิงได้นัดละไม่ต่ำกว่า 3 ประตู ส่วนเกมรับก็มีสถิติที่ไม่เลว เพราะพวกเขาคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของบุนเดสลีกาฤดูกาลนี้ รองจากแชมเปี้ยนอย่าง บาเยิร์น มิวนิค (33 ประตู) และ แอร์เบ ไลป์ซิก (36 ลูก) แค่ 2 ทีมเท่านั้น นั่นหมายความว่ามาตรฐานของ ไฟร์บวร์ก ตอนนี้ ถือว่าไม่จำเป็นต้องกลัวใคร แม้ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้ประเมินพวกเขาสูงนักก็ตาม และบางทีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่อย่างการไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือการคว้าแชมป์บอลถ้วยของเยอรมันมาครอง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครทำได้ เราอาจได้เห็น คริสเตียน ชไตรค์ ทำได้เป็นคนแรกก็ได้

เว็บเดิมพันออนไลน์ ยอดเยี่ยมแห่งปี2022

เว็บไซต์พนัน เชื่อถือได้ และได้เงินจริง ฝากง่าย-ถอนรวดเร็ว ง่ายๆ ใน 1 นาที ทรูมันนี่ TrueMoney มีให้บริการ  เว็บไซต์ VWIN หรือ เว็บเดิมพันออนไลน์ เว็บวีวิน ที่ตอบสนองทุกการเดิมพัน ทั้งด้านเกม กีฬาออนไลน์ คาสิโนออนไลน์ สล็อตออนไลน์ และ ล็อตเตอรี่ออนไลน์

vwin